นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท วันเดอ มาติกส์ จำกัด (“บริษัท”) ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ตระหนักถึงความสำคัญของประเด็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ใช้บริการของบริษัทย่อมมีความประสงค์ที่จะได้รับความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ซึ่งครอบคลุมถึงวิธีที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล(Privacy Notice) นี้มีขึ้นเพื่อการชี้แจงรายละเอียดและวิธีการจัดการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทอาจดำเนินการปรับปรุง หรือแก้ไขนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนด เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการให้บริการและหลักเกณฑ์ของกฎหมายต่าง ๆ ทั้งนี้ หากบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เพิ่มเติม ปรับปรุงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ฉบับนี้ บริษัทจะดำเนินการเผยแพร่การเปลี่ยนแปลงแก้ไข เพิ่มเติม ปรับปรุงนั้นในหน้าเว็บไซต์ของบริษัท
ทั้งนี้ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) นี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้สินค้าและบริการต่าง ๆ การเข้าถึง การใช้เนื้อหา ฟีเจอร์ เทคโนโลยี หรือฟังก์ชันที่ปรากฏในเว็บไซต์นี้ ตลอดจนแอปพลิเคชั่น และบริการอื่นใดที่เกี่ยวข้องของบริษัททั้งที่มีอยู่ในปัจจุบัน และ/หรือที่จะจัดให้มีขึ้นในอนาคต
1. คำนิยาม
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้น ๆ ได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งแบ่งออกเป็น ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป และ/หรือข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว
“ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้น ๆ ได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลข่าวสาร หรือข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งเฉพาะตัวบุคคล เช่น ชื่อนามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รูปภาพบนบัตรประจำตัวประชาชน อายุ วันเกิด เพศ เลขที่บัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล การศึกษา ประวัติการทำงาน ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลด้านเครดิต ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน เป็นต้น
“ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บริษัท วันเดอ มาติกส์ จำกัด ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ให้รวมถึงที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม
2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีแหล่งที่มาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทางดังนี้
- 2.1 บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากขั้นตอนการให้บริการดังนี้
-
- 2.1.1 ขั้นตอนการสมัครใช้บริการ หรือขั้นตอนการยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่าง ๆ กับบริษัท
- 2.1.2 จากความสมัครใจของท่าน ในการทำแบบสอบถาม (Survey) หรือการโต้ตอบทางอีเมล หรือช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ระหว่างบริษัทและท่าน
- 2.1.3 จากการใช้บริการ หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริการ
- 2.1.4 เก็บจากข้อมูลการใช้เว็บไซต์ของบริษัทผ่านคุกกี้ (Cookies)
- 2.1.5 จากการซื้อสินค้าและบริการ ผ่านทางช่องทาง online เช่น เว็บไซต์ของบริษัท แพลตฟอร์มออนไลน์ บูธกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัท
- 2.2 บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากท่านโดยตรง เช่น การสืบค้นข้อมูลส่วนบุคคลผ่านระบบเว็บไซต์ หรือสอบถามจากบุคคลภายนอก เป็นต้น โดยบริษัทจะแจ้งถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้ท่านทราบโดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ ไม่เกิน 30 (สามสิบ) วันนับแต่วันที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งดังกล่าว และจะดำเนินการขอความยินยอมในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจากท่าน เว้นแต่กรณีไม่ต้องขอความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด
3. วัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- 3.1 วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
-
- 3.1.1 เพื่อให้การใช้บริการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสอดคล้องกับกฎหมาย หลักเกณฑ์ และระเบียบ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบัน และ/หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต
- 3.1.2 เพื่อประโยชน์ในการยืนยัน หรือระบุตัวตนของท่านเมื่อเข้าใช้งานบริการต่าง ๆ ของบริษัท พันธมิตรทางธุรกิจ เช่น การจอง การยืนยันการจอง การตรวจสอบรายงานการจองของท่านในครั้งก่อน ๆ การส่งข้อมูลให้บริษัทประกันภัย การส่งข้อมูลให้แก่ผู้ให้บริการด้านการเงิน เป็นต้น รวมถึงผู้เข้ามาติดต่อขอเข้าพื้นที่ทำการของบริษัท
- 3.1.3 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงการให้บริการงานในด้านต่าง ๆ เช่น งานบริการลูกค้าสัมพันธ์ การตอบสนองต่อความต้องการ การจัดการตามคำขอการใช้บริการของท่าน เป็นต้น
- 3.1.4 เพื่อติดต่อสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ ข้อความสั้น (SMS) ข้อความพหุสื่อ (MMS) อีเมล ไปรษณีย์ และ/หรือผ่านช่องทางใด ๆ เพื่อสอบถาม หรือแจ้งให้ท่านทราบ หรือสำรวจความคิดเห็น หรือแจ้งข้อมูลข่าวสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัทตามที่จำเป็น
- 3.1.5 เพื่อประโยชน์อื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น เพื่อการศึกษา วิจัย จัดทำสถิติ พัฒนาการให้บริการ วิเคราะห์วางแผนการตลาด กิจกรรมทางการตลาด หรือการโฆษณาเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการจัดส่งเนื้อหา การโฆษณาประชาสัมพันธ์ กิจกรรมและโปรโมชั่นต่าง ๆ ตลอดจนการให้คำแนะนำต่าง ๆ ที่เหมาะสมเพื่อให้การให้บริการต่าง ๆ ตรงกับความสนใจของท่าน
- 3.1.6 เพื่อการอำนวยความสะดวกในการแจ้ง ส่งเอกสารต่าง ๆ และ/หรือการชำระค่าบริการ ค่าธรรมเนียม อันเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการให้แก่ท่าน
- 3.1.7 เพื่อการเข้าทำ และ/หรือเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา รวมถึงการปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้บริการของบริษัท
- 3.1.8 เพื่อให้บริการหลังการขาย การให้บริการตามที่ท่านร้องขอ ตอบข้อสงสัย สนับสนุนการใช้งาน ให้ข้อมูล รับเรื่องร้องเรียน และแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ
- 3.1.9 การถ่ายภาพ หรือบันทึกภาพเคลื่อนไหวไม่ว่าวิดีทัศน์ หรือกล้องวงจรปิด ในเหตุการณ์ต่าง ๆ ของบุคคลที่เข้ามาในพื้นที่ของบริษัท เพื่อความปลอดภัยและป้องกันทรัพย์สินของบริษัทและสาขาของบริษัท รวมถึงเพื่อใช้ในการตรวจสอบกรณีเกิดอุบัติเหตุ และ/หรืออาชญากรรม
- 3.1.10 เพื่อการบันทึกข้อมูล บทสนทนา และ/หรือการสื่อสารใด ๆ ระหว่างบริษัทกับท่าน เช่น อีเมล การสัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ เป็นต้น เพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาการจัดการด้านการสื่อสาร และ/หรือด้านการให้บริการของบริษัท
- 3.1.11 เพื่อการดำเนินการยุติข้อพิพาท การเรียกคืน การติดตามทวงถามหนี้ การบังคับชำระหนี้
- 3.1.12 เพื่อความปลอดภัย หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพอนามัยของบุคคล
- 3.1.13 เพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายให้อำนาจในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่านซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- 3.1.14 การปฏิบัติตามนโยบายการดำเนินการภายในของบริษัท กลุ่มบริษัท บริษัทในเครือ บริษัทย่อย เครือกิจการ
- 3.1.15 การให้บริการต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัท บริษัทในเครือ บริษัทย่อย เครือกิจการ พันธมิตรของบริษัท และ/หรือนิติบุคคลอื่นใดที่บริษัทเป็นคู่สัญญา หรือมีนิติสัมพันธ์ตามกฎหมายซึ่งอาจตั้งอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ
- 3.1.16 การบริหารการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับผู้ใช้บริการในด้านการบัญชี
- ทั้งนี้ หากภายหลังบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท https://www.wondermatics.co.th นี้
- 3.2 ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานดังต่อไปนี้
-
- 3.2.1 ฐานสัญญา (Contract) บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มีความจำเป็นต่อการเข้าทำสัญญา และ/หรือปฏิบัติตามสัญญา ทั้งนี้ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ฐานสัญญานั้น บริษัทไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมก่อนการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแต่อย่างใด
- 3.2.2 ฐานความยินยอม (Consent) บริษัทจะต้องได้รับความยินยอมจากท่านซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลก่อนทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ฐานความยินยอมนี้
- การถอนความยินยอม หากท่านประสงค์จะถอนความยินยอม ท่านสามารถดำเนินการโดยผ่านช่องทางการติดต่อของบริษัทตามข้อ 5. นี้ได้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
- ผลกระทบจากการไม่ให้ความยินยอม หรือถอนความยินยอม บริษัทขอเรียนให้ท่านทราบว่าผลกระทบที่ท่านไม่ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรืออาจได้รับจากการถอนความยินยอม ดังนี้
- 1) ท่านอาจถูกจำกัดสิทธิการใช้บริการบางอย่างของบริษัท หรือได้รับความสะดวกในการรับบริการจากบริษัทน้อยลง
- 2) อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถให้บริการ หรือเสนอผลิตภัณฑ์บางบริการแก่ท่านได้ หากข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวมีความจำเป็นต่อบริษัทในการให้บริการแก่ท่าน
- 3.2.3 ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย (Legal obligation) บริษัทมีความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประมวลกฎหมายอาญา ประมวลรัษฎากร เป็นต้น รวมถึง คำสั่งศาล คำพิพากษา หรือคำสั่งของหน่วยงานราชการอื่นใด และ/หรือกฎหมายอื่นใดที่มีผลใช้บังคับอยู่ และ/หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต
- 3.2.4 ฐานผลประโยชน์โดยชอบธรรม (Legitimate Interest) บริษัทมีความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานผลประโยชน์อันชอบธรรม โดยการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ฐานนี้เป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ของท่าน บุคคลภายนอก และ/หรือเพื่อประโยชน์โดยชอบของบริษัท เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความ สำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ฐานผลประโยชน์อันชอบธรรม เช่น
- (ก) การส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในบริษัท เพื่อปฏิบัติตามวิธีการทำงานของบริษัท โดยบริษัทจะทำการส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านระหว่างฝ่ายปฏิบัติการต่าง ๆ ภายในบริษัทซึ่งเป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวิธีการปฏิบัติงานของบริษัท
- (ข) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอก เพื่อพิจารณาสวัสดิการของบริษัทแก่พนักงาน และครอบครัวของพนักงาน ซึ่งเป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์โดยชอบของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นบุคคลภายนอก และไม่กระทบต่อสิทธิความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เป็นต้น
- 3.2.5 ฐานประโยชน์ต่อชีวิต (Vital Interest) บริษัทมีความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต เพื่อเป็นการป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือบุคคลใด ๆ และ/หรือพนักงานของบริษัท
- 3.2.6 ฐานจดหมายเหตุ วิจัย และสถิติ (Historical Document, Research, Statistics) บริษัทมีความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานจดหมายเหตุ วิจัยและสถิติ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัย หรือสถิติ โดยบริษัทจะจัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน ทั้งนี้ การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว บริษัทจะต้องขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน หรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าว
4. ลักษณะการจัดเก็บและระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
- 4.1 ลักษณะการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะเป็นหนังสือ (Hard copy) และ/หรือจัดเก็บในระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Soft copy) และ/หรือรูปแบบไฟล์เสียง (Voice Recording) โดยมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ
- 4.2 ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาดังต่อไปนี้
-
- 4.2.1. ตามกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ เช่น พระราชบัญญัติการบัญชี พระราชบัญญัติป้องกันและปรามปราบการฟอกเงิน พระราชบัญญัติความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ประมวลรัษฎากร เป็นต้น
- 4.2.2. ในกรณีที่กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ บริษัทจะจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังกล่าวไว้ภายในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นเท่านั้น
- 4.2.3. บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาของสัญญา และหลังจากสัญญาสิ้นสุดลง เป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 (สิบ) ปี นับแต่ปีที่สัญญาสิ้นสุดลง หรือภายในระยะเวลาการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของคู่สัญญา หรือการบังคับสิทธิตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของบริษัท หรือการดำเนินการทางศาลจนกว่าจะสิ้นสุดการดำเนินการดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล หรือบริษัทไม่มีสิทธิ หรือไม่สามารถอ้างฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว บริษัทจะดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ภายในระยะเวลาอันควร
5. ช่องทางการติดต่อ
ท่านสามารถติดต่อบริษัท หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) ของบริษัทได้ เพื่อยื่นคำร้องขอดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามสิทธิที่พึงมีได้ตามช่องทางการติดต่อ ดังนี้
ข้อมูลของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท : บริษัท วันเดอ มาติกส์ จำกัด
สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 968 อาคารอื้อจือเหลียง ชั้น 5 ถนนพระราม4 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
ช่องทางการติดต่อ : 020953662
Email : wondermatics.th@gmail.com
เว็บไซต์ : https://www.wondermatics.co.th
6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะสามารถเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือดำเนินการอื่นใดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยชอบด้วยกฎหมาย ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยท่านมีสิทธิในการดำเนินการดังต่อไปนี้
- 6.1 สิทธิในการถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent) ท่านมีสิทธิในการถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมาย หรือสัญญาที่ให้ประโยขน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ผลกระทบจากการถอนความยินยอม
บริษัทขอเรียนแจ้งให้ท่านทราบว่าการให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ครบถ้วน หรือการไม่ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือการถอนความยินยอมนั้นอาจทำให้ท่านถูกจำกัดสิทธิการใช้บริการบางอย่างของบริษัท หรือได้รับความสะดวกในการรับบริการจากบริษัทน้อยลง หรือส่งผลให้บริษัทไม่สามารถให้บริการ หรือเสนอผลิตภัณฑ์บางบริการแก่ท่านได้ หากข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อบริษัทในการให้บริการแก่ท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ
- 6.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access) ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้
- 6.3 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification) ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไข หรือเพิ่มเติมข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
- 6.4 สิทธิในการขอลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Erasure) ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรักษาไว้ หรือให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีดังนี้
- (ก) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลไม่มีความจำเป็นที่จะเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- (ข) ในกรณีที่ท่านได้ถอนความยินยอมแล้ว และบริษัทไม่มีอำนาจที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไป
- (ค) ในกรณีที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทไม่สามารถอ้างเหตุปฏิเสธการคัดค้านได้
- (ง) ในกรณีที่การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย
- 6.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restriction of Processing) ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการชั่วคราวได้ หากบริษัทอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือตรวจสอบคำคัดค้านของท่าน นอกจากนี้ ในกรณีที่ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านอาจขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบ หรือทำลายก็ได้
- 6.6 สิทธิในการขอรับ ขอให้ส่ง หรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Data Portability) ท่านมีสิทธิในขอรับ หรือขอให้บริษัทส่ง หรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่ร้องขอ
- 6.7 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object) ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บ ใช้ รวบรวม เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน หากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นบริษัทจัดเก็บได้โดยได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือฐานประโยชน์อันชอบธรรม หรือข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยเพื่อการตลาดแบบตรง หรือเพื่อการศึกษาวิจัย
- 6.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to Complaint) ในกรณีที่บริษัท หรือพนักงานของบริษัท ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือประกาศที่ออกตามความพระราชบัญญัตินี้ ท่านสามารถร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ที่มีอายุไม่เกิน 10 (สิบ) ปี บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และ/หรือบุคคลไร้ความสามารถ ในกรณีที่ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล (แล้วแต่กรณี) ได้ให้ความยินยอมแล้วเท่านั้น ในกรณีที่บริษัทมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่กล่าวข้างต้น โดยไม่ได้รับความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทจะดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เว้นแต่บริษัทมีสิทธิตามกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
ในกรณีที่ท่านประสงค์จะใช้สิทธิตามข้อ 6.1 จนถึงข้อ 6.7 ดังกล่าวข้างต้น ท่านสามารถติดต่อขอรับแบบคำขอใช้สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่สำนักงานของบริษัท หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือดาวน์โหลดเอกสารดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท
7. ประเภทของบุคคล หรือหน่วยงาน
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมอาจจะถูกเปิดเผย บริษัทอาจจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการจัดเก็บและรวบรวมดังกล่าวต่อบุคคล นิติบุคคล และหน่วยงานต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้ดังนี้
- 7.1 บริษัทในกลุ่ม บริษัทในเครือ บริษัทย่อย เครือกิจการ
- 7.2 ผู้ให้บริการต่าง ๆ ที่ให้บริการแก่บริษัท : บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ให้บริการต่าง ๆ ที่ให้บริการแก่บริษัท โดยผู้ให้บริการดังกล่าวจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่บริษัทอนุญาตให้ใช้ซึ่งจะเป็นการเปิดเผยเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
-
- ที่ปรึกษาวิชาชีพต่าง ๆ เช่น ที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษากฎหมาย
- ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูล รวมถึงผู้ให้บริการคลาวด์
- ผู้ให้บริการทางการตลาด ซึ่งรวมถึงผู้ให้บริการในการจัดทำข้อมูลและสถิติ
- ผู้ให้บริการงานโฆษณา งานประชาสัมพันธ์ และการติดต่อสื่อสาร
- ผู้ให้บริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบและเครือข่ายการชำระเงิน
- ตัวแทนรับชำระเงิน
- สถาบันการเงินที่บริษัทใช้บริการในการให้บริการแก่ท่าน
- ผู้ให้บริการตรวจสอบข้อมูล
รวมถึงนิติบุคคลอื่นใดที่บริษัทเป็นคู่สัญญา หรือมีนิติสัมพันธ์ตามกฎหมายซึ่งอาจตั้งอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ ทั้งนี้ บุคคล หรือนิติบุคคลดังกล่าวอาจตั้งอยู่ในประเทศที่มิได้มีมาตรฐานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ แต่บริษัทจะดำเนินการให้แน่ใจได้ว่าบุคคล หรือนิติบุคคลนั้นมีระบบการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่มั่งคงปลอดภัย
- 7.3 พันธมิตรของบริษัทที่มีข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับบริษัท
- 7.4 ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือหน้าที่จากบริษัท ในกรณีที่บริษัทประสงค์จะโอนสิทธิและหน้าที่ รวมถึงการโอนกิจการบางส่วน หรือทั้งหมด การควบรวมกิจการ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท บริษัทมีความจำเป็นจะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ผู้รับโอน (รวมถึงผู้ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้รับโอน)
- 7.5 บุคคล หรือหน่วยงานตามที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่มีกฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คำสั่งของหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล หรือคำสั่งของศาล
8. การเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบคุกกี้ (Cookies)
บริษัทอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับความสนใจ และ/หรือความชอบของท่าน และ/หรือข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ ของท่านด้วยการใช้คุ้กกี้ (Cookies) ในเว็บไซต์ และแอปพลิเคชั่นของบริษัท ทั้งนี้ เพื่อให้บริษัทสามารถนำเสนอบริการที่ตรงกับความต้องการของท่านให้ได้มากที่สุด โดยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะถูกเก็บเอาไว้ในรูปแบบของคุกกี้ (Cookies) เนื่องจากการที่บริษัทจะส่งหรือแสดงข้อมูลข่าวสารบริการ หรือข้อเสนอที่เป็นประโยชน์จากบริษัทให้กับท่านผ่านทางเว็บไซต์ได้นั้น บริษัทจำเป็นจะต้องเก็บและใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่เว็บไซต์ของท่าน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกเก็บเอาไว้ในรูปแบบของคุกกี้ (Cookies) ซึ่งเป็นองค์ประกอบย่อยของข้อมูลที่เว็บไซต์จะส่งไปยังบราวเซอร์ของท่าน โดยจะบันทึกข้อมูลลงไปในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ/หรือเครื่องมือสื่อสารที่เข้าใช้งานของท่าน เช่น แท็บเล็ต, สมาร์ทโฟน เป็นต้น เมื่อท่านกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทในครั้งต่อไป คุกกี้ (Cookies) จะทำให้บริษัทสามารถจัดการเกี่ยวกับความสนใจของท่านได้อย่างเหมาะสม ทำให้ท่านกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทได้สะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ คุกกี้ (Cookies) ยังถูกใช้เพื่อวัดปริมาณการเข้าใช้งานบริการทางออนไลน์ การปรับเปลี่ยนเนื้อหาตามการใช้งานของท่านทั้งในก่อนหน้าและปัจจุบัน หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถที่จะตั้งค่ามิให้บราวเซอร์ของท่านตกลงรับคุกกี้ (Cookies) ของบริษัทได้
ทั้งนี้ บริษัทอาจติดต่อกับเครือข่ายโฆษณาที่เป็นบุคคลภายนอกที่รวบรวมที่อยู่ไอพี และข้อมูลอื่น ๆ ด้วยการใช้คุกกี้บันทึกการปฏิบัติการของเว็บเซิร์ฟเวอร์ บุคคลภายนอกเหล่านั้นจะใช้ข้อมูลนี้ในการทำการโฆษณาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน (ซึ่งรวมทั้งการโฆษณาเพื่อบริษัทอื่น ๆ ที่มิได้เกี่ยวข้องกับบริษัท) ท่านอาจเห็นโฆษณาเหล่านี้ ในเว็บไซต์อื่นใด กระบวนการเหล่านี้ช่วยบริษัทในการจัดการ และติดตามความสัมฤทธิ์ผลของการตลาดของบริษัทได้ อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถเลือกที่จะไม่รับข้อมูลในเครือข่ายโฆษณานั้น ๆ ได้ผ่านระบบของเครือข่ายเอง
9. การเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม
บริษัทมีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถดำเนินการโดยผ่านช่องทางการติดต่อของบริษัทตามข้อ 5. เพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้
10. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่น
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) นี้ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการต่าง ๆ และการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทเท่านั้น หากท่านได้เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่น แม้จะผ่านช่องทางในเว็บไซต์ของบริษัทก็ตาม ท่านจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้นแยกต่างหากจากของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะไม่รับผิดชอบในเนื้อหาของเว็บไซต์ หรือการปฏิบัติในเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ของเว็บไซต์นั้น
11. ความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของบริษัทที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยโดยไม่มีสิทธิ หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ในกรณีที่บริษัทให้หน่วยงาน หรือบุคคลภายนอกดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแทนบริษัท บริษัทจะกำหนดให้หน่วยงาน หรือบุคคลภายนอกดังกล่าวเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ และรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงป้องกันมิให้นำข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเพื่อการอื่นใด โดยไม่มีอำนาจ หรือขัดต่อกฏหมาย